บริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน)

ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2537 เพื่อดำเนิน ธุรกิจเป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน ชนิดม้วน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการรองรับความต้องการเหล็กแผ่นรีดร้อน ชนิดม้วนภายในประเทศโรงงานของบริษัท ตั้งอยู่บน พื้นที่ 500 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรม เหมราชชลบุรี อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 130 กิโลเมตร

GJS เป็นโรงงานที่ทันสมัยและครบวงจรด้วยเงินลงทุนกว่า 54,000 ล้านบาท ทำให้โรงงาน

GJS ผลิตเหล็กแบบครบวงจร ประกอบด้วย

•    โรงงานผลิต DRI จากสินแร่เหล็ก 

•    โรงงานหลอมเหล็กไฟฟ้าแบบ Consteel ซึ่งมีขนาดใหญ่ติดอันดับหนึ่งในสามของโลก 

•    โรงหล่อแสล็ป (Slab) แบบต่อเนื่อง 

•    โรงผลิตเหล็กรีดร้อน กำลังผลิต 3 ล้านตันต่อปี 

•    โรงงานรีดเหล็กเรียบสำหรับงานที่ต้องการความเรียบแบบพิเศษ 

•    โรงงานกัดกรดและเคลือบน้ำมันสำหรับเหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และ เครื่องใช้ไฟฟ้า 

•    โรงงานเคลือบสังกะสีสำหรับเหล็กเพื่อกันสนิมในอุตสาหกรรมยานยนต์ 

อุตสาหกรรมก่อสร้างหลังคาอาคารและโรงงาน 

การผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนของบริษัทเป็นกระบวนการผลิตแบบต่อเนื่องโดยใช้ระยะเวลา 

การผลิตประมาณ 3.5 ชั่วโมง ในการแปรสภาพเศษเหล็กและ เหล็กถลุงโดยการหลอมในเตาหลอม

ไฟฟ้าและนำมาหล่อเป็นเหล็กแท่งทรงแบนจากนั้นจึงนำไปรีดอย่างต่อเนื่องจนได้เป็นเหล็กแผ่น

รีดร้อนชนิดม้วนที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากลโดยได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:

2000เมื่อ ปี 2548 และ CE Mark ในปี 2549 ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทั้งตลาดในประเทศ

และต่างประเทศ 

นอกจากนั้นโรงงานของบริษัทยังเป็นโรงงานแห่งเดียวในประเทศและนับเป็น หนึ่งในโรงงาน

ไม่กี่แห่งทั่วโลกที่สามารถผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนที่มีระดับชั้นความหนาเพียง 1.0 มิลลิเมตรได้และให้กำลังการผลิตสูงสุดถึง 3 ล้านตันต่อปี 

 โรงรีดปรับผิว สำหรับงานที่ต้องการความเรียบของเหล็กแผ่นเป็นพิเศษ 

 โรงกัดกรดและเคลือบน้ำมัน สำหรับเหล็กในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า 

 โรงงานชุบและอบเคลือบสังกะสี สำหรับการป้องกันกันสนิมเหล็กที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และการทำหลังคาอาคารและโรงงานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง 



กระบวนการผลิตแบบต่อเนื่อง ตั้งแต่การหลอมจนได้เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน ใช้ระยะเวลาเพียงสามชั่วโมงครึ่งเท่านั้น เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนของเรามีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับจากตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้การพัฒนาระบบการบริหารการจัดการอย่างต่อเนื่อง จนได้รับรองมาตรฐานระบบการจัดการ ISO 9001 CE Mark และ OHSAS 18001 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 2549 และ 2550 ตามลำดับ