ผู้สมัครงาน
การหางานไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว ยิ่งถ้าไม่เตรียมตัวให้พร้อมก็ยิ่งยากไปใหญ่ และเมื่อพูดถึงการหางานในปีนี้ก็มีความยากกว่าปีที่แล้วแน่นอน
มาดู 5 เรื่องสำคัญ ที่คนหางานปีนี้ต้องเตรียมตัวแข่งขันกันเลยครับ
1 น้องจบใหม่เข้ามาเพิ่มอีกกว่า 2 แสนคน : การรับคนเข้าทำงาน ไม่ได้พิจารณาที่จำนวนปีของประสบการณ์เสมอไป เพราะถ้าน้องจบใหม่มีทักษะที่มากกว่า ซึ่งได้จากการฝึกงาน, การรับงานพิเศษ หรือเข้าร่วมกิจกรรมในมหาวิทยาลัย หรือจากการเรียนตามหลักสูตรก็ตาม น้องก็มีโอกาสได้งานมากกว่าคนมีประสบการณ์ทำงานที่ไม่ค่อยได้พัฒนาทักษะอะไรมาก ได้แต่ทำงานเดิม ๆ ความรู้ไม่เพิ่ม ต่อให้มีประสบการณ์ 3 ปี โอกาสก็น้อยกว่าน้องอยู่ดี เพราะการสัมภาษณ์จะทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้ว่าใครมีทักษะมากกว่า
แต่ยังไงรุ่นพี่มีประสบการณ์ที่พร้อมด้วยทักษะสูงก็มีอยู่ไม่น้อยครับ น้องจบใหม่ก็ต้องโชว์ความสามารถลงในเรซูเม่ให้เต็มที่ พร้อมเลือกสมัครงานที่เหมาะสมและตรงความสามารถของตัวเองด้วยครับ
ส่วนน้องรุ่นปีที่แล้วและยังหางานไม่ได้ ก็ยิ่งต้องเตรียมตัวเลยครับ เพราะน้องรุ่นใหม่ เพิ่งผ่านการเรียนรู้ การฝึกงานมาไม่นานก็มักเป็นที่สนใจมากกว่าอยู่แล้ว ที่สำคัญคือ จะถูกถามว่า หลังเรียนจบปีที่แล้วนอกจากการหางาน กิจกรรมอื่นที่ทำมีอะไรบ้างหรือไม่ คนที่ได้เรียนรู้และฝึกทักษะต่าง ๆ หรือทำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานที่สนใจ ก็ย่อมได้เปรียบคนที่อยู่ว่างเฉย ๆ ครับ
อย่างไรแล้ว โอกาสก็อยู่ที่ทักษะในการทำงาน ต้องมีมากในระดับที่พร้อมทำงาน ก่อนสมัครต้องดูในประกาศให้ละเอียด เขาต้องการคุณสมบัติแบบไหน ต้องทำอะไรได้บ้าง ถ้าตรงความสามารถของคุณก็ต้องระบุลงในเรซูเม่ให้ชัดเจน และสุดท้ายต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดก่อนไปสัมภาษณ์งานด้วยครับ
2 นายจ้างต้องการคนมีทักษะที่หลากหลายมากขึ้น : หลายองค์กรยังไม่สามารถจ้างงานได้สูงเท่าจำนวนที่เคยจ้างในสถานการณ์ปกติ ดังนั้น การจ้าง 1 คนเข้ามาก็ต้องสามารถทำงานได้หลายอย่าง โดยเฉพาะทักษะที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และบนออนไลน์ ..ทักษะต้องหลากหลายขนาดไหน ? ให้ดูในประกาศงานที่จะสมัครเลยครับ ถ้าทำได้ครบตามที่เขาต้องการ โอกาสก็เป็นของคุณ ถ้ามีในระดับที่ไม่พร้อมทำงานก็ต้อง Upskill แต่ถ้าไม่มีเลยก็ต้อง Reskill ครับ
3 นายจ้างต้องการคนพร้อมยืดหยุ่นเวลาทำงานอย่างแท้จริง : เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามา Support ให้เราสามารถทำงานได้ตลอดเวลา และโลกออนไลน์ที่ทำงานทุกวันตลอด 24 ชม. การซื้อขายสร้างรายได้ของธุรกิจก็เกิดขึ้นตลอดเวลา การคุยงาน สอบถามงานในวันหยุดหรือนอกเวลางานในยุคนี้จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่มีโอกาสเกิดขึ้น และหลายสายงานก็ต้องคอยตรวจสอบงาน หรือแก้ไขทันทีเมื่อเกิดข้อผิดพลาด เช่น สายไอที, สายการตลาดออนไลน์ หากใครยังติดลบกับเรื่องนี้และไม่พยายามเข้าใจ ก็อาจไม่เหมาะในการเข้าไปทำงานในบางตำแหน่งและในบางองค์กรครับ
4 มีการสอนงานน้อยลง คนทำงานต้องเรียนรู้และกำกับการทำงานด้วยตัวเอง : เมื่อ Social Distancing ยังต้องมีอยู่ตลอด การทำงานของหลายตำแหน่งก็ต้อง Work From Home การสอนงานจึงทำได้ไม่เต็มที่ แต่เน้นให้คนทำงานเรียนรู้ด้วยตนเอง ทั้งเนื้องานและการใช้เครื่องมือ Digital Platforms ต่าง ๆ ต้องใช้ให้คล่อง เพื่อประชุมหรือนำเสนองาน เช่น Google Meet, Zoom, Webex Meet ฯลฯ ที่สำคัญ ไม่มีใครมาคอยตามจี้ มาคอยสังเกตว่าคุณจะอู้งานรึเปล่า หากใครคิดว่า WFH เป็นการพักผ่อนไปในตัวจึงส่งผลให้งานล่าช้า แต่หัวหน้าต้องการคืองานที่เสร็จตามเวลาและมีคุณภาพด้วย ฉะนั้นคนทำงานปัจจุบันจึงต้องมีวินัยสูง ต้องกำกับตัวเองให้ได้ ถ้าอยู่ในช่วงทดลองงานแล้ว WFH แบบชิว ๆ หรือแม้จะผ่านโปรแล้ว ก็มีสิทธิ์ปลิวสูงมากครับ
5 คนทำงานต้องปรับตัวได้ทันทุกสถานการณ์ ไม่ให้ส่งผลกระทบกับงาน : เพราะความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ทุกเวลา คนทำงานต้องไม่นำสถานการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นข้ออ้างเพื่อเลี่ยงการทำงานหรือเป็นสาเหตุของการทำงานไม่สำเร็จ แต่ต้องปรับตัวเพื่อให้ยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครมาคอยบอกอยู่แล้วว่าจะต้องทำยังไง คุณต้องปรับตัวให้ทันกับการเกิดสิ่งใหม่ ๆ ในองค์กรหรือแม้กระทั่งการตามโลกเทคโนโลยีภายนอกให้ทัน ต้องหาคำตอบพร้อมวิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเองจากเครื่องมือที่มีอยู่รอบตัว ด้วยเหตุนี้ทำให้การใช้ Digital Platforms เป็นทักษะพื้นฐานสำคัญของการทำงานในยุคนี้นั่นเองครับ
Website : www.senmentor.com
Line : wisebrown
Tel : 081-820-9271
มีโอกาสได้งานทันที คลิกสมัครเรซูเม่วันนี้ ฟรี
หางานด่วน เปิดรับกว่า 148,161 อัตรา คลิก >> https://jobbkk.com/go/YtvVO
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด